Difference between revisions of "เทคนิคการใช้คำถามเพื่อการคิดวิเคราะห์และการคิดสร้างสรรค์"

From Knowledge sharing space
Jump to: navigation, search
(เทคนิคการใช้คำถาม)
(เทคนิคการใช้คำถาม)
 
(2 intermediate revisions by the same user not shown)
Line 2: Line 2:
 
คือกระบวนการของการใช้คำถามเพื่อกระตุ้นให้เกิดการคิด การนำไปสู่การค้นหาเหตุผล ตรรกะ และพิจารณาสิ่งต่างอย่างครบถ้วนและรอบด้าน (บรรจง, 2556)
 
คือกระบวนการของการใช้คำถามเพื่อกระตุ้นให้เกิดการคิด การนำไปสู่การค้นหาเหตุผล ตรรกะ และพิจารณาสิ่งต่างอย่างครบถ้วนและรอบด้าน (บรรจง, 2556)
 
นักการศึกษาในปัจจุบันจำนวนมากล้วนสนับสนุนที่ว่าทักษะการสืบถามคือเป้าประสงค์สำคัญอันหนึ่งของการศึกษาโดยเห็นว่าวิธีการนี้จะนำนักเรียนไปสุ่การสืบสวนสอบสวนในปรากฏการณ์จริง ซึ่งเป็นกระบวนการบ่มเพาะทักษะเชิงปัญญา เหมือนการสอนให้เด็กรู้จักถาม นำไปสู่การเรียนรู้ การรู้จัก การคิดวิเคราะห์(Critical Thinking) และ[[การคิดสร้างสรรค์(Creativity)]]
 
นักการศึกษาในปัจจุบันจำนวนมากล้วนสนับสนุนที่ว่าทักษะการสืบถามคือเป้าประสงค์สำคัญอันหนึ่งของการศึกษาโดยเห็นว่าวิธีการนี้จะนำนักเรียนไปสุ่การสืบสวนสอบสวนในปรากฏการณ์จริง ซึ่งเป็นกระบวนการบ่มเพาะทักษะเชิงปัญญา เหมือนการสอนให้เด็กรู้จักถาม นำไปสู่การเรียนรู้ การรู้จัก การคิดวิเคราะห์(Critical Thinking) และ[[การคิดสร้างสรรค์(Creativity)]]
[[File:Maker4.jpg|500px|right]]
+
[[File:Maker4.jpg|300px|right]]
  
 
== เทคนิคการใช้คำถาม ==
 
== เทคนิคการใช้คำถาม ==
Line 18: Line 18:
  
 
[[File:Maker8.jpg|300px|right]]
 
[[File:Maker8.jpg|300px|right]]
 
+
[[File:Maker12.jpg|300px|right]]
  
 
*การขอสรุป
 
*การขอสรุป

Latest revision as of 11:42, 14 September 2018

การใช้คำถาม(Inquiry) หรือ การสืบถาม

คือกระบวนการของการใช้คำถามเพื่อกระตุ้นให้เกิดการคิด การนำไปสู่การค้นหาเหตุผล ตรรกะ และพิจารณาสิ่งต่างอย่างครบถ้วนและรอบด้าน (บรรจง, 2556) นักการศึกษาในปัจจุบันจำนวนมากล้วนสนับสนุนที่ว่าทักษะการสืบถามคือเป้าประสงค์สำคัญอันหนึ่งของการศึกษาโดยเห็นว่าวิธีการนี้จะนำนักเรียนไปสุ่การสืบสวนสอบสวนในปรากฏการณ์จริง ซึ่งเป็นกระบวนการบ่มเพาะทักษะเชิงปัญญา เหมือนการสอนให้เด็กรู้จักถาม นำไปสู่การเรียนรู้ การรู้จัก การคิดวิเคราะห์(Critical Thinking) และการคิดสร้างสรรค์(Creativity)

Maker4.jpg

เทคนิคการใช้คำถาม

บรรจง (2556) ได้กล่าวถึงการสอนที่มุ่งเน้นการตั้งคำถาม เพื่อให้เกิดการคิดของผู้เรียน ครูอาจใช้กลยุทธ์ในการกระตุ้นการคิดต่อไปนี้

  • ระยะเวลาในการคิด

ควรได้มีเวลาพักในการคิด มีจังหวะช่วงเงียบ ควรให้เวลาอย่างน้อย 3วินาที ในการคิดหลังจากได้รับคำถาม และอีก 3วินาทีสำหรับการคิดเมื่อเด็กได้ให้คำตอบแล้ว

  • การคิดเป็นคู่

ให้เวลาแต่ละคนได้คิดเสร็จแล้วก็ให้จับคู่แลกเปลี่ยนความเห็นกัน เสร็จแล้วก็เปิดโอกาสให้ทั้งชั้นเรียนได้อภิปรายแลกเปลี่ยนความเห็นกัน

  • คำถามเพื่อติดตาม

ช่วยให้นักเรียนขยายความหรือให้ความกระจ่างในสิ่งที่เขาพูดด้วยการใช้คำถามที่ท้าทายความคิดเช่น ทำไม, คุณเห็นด้วยหรือไม่, ขอให้อธิบายเพิ่มได้ไหม, ขอให้ยกตัวอย่างคำตอบที่ได้มา

  • อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจ

การสนองตอบต่อคำตอบของนักเรียนอย่าเพิ่งประเมินคำตอบโดยทันที โดยอย่าพูดว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ยกตัวอย่างว่าควรให้คำตอบเชิงบวกแต่แบบแสดงออกแบบกลางๆ เช่น ขอบคุณครับ โอเค เรื่องนี้น่าสนใจ เอาล่ะ หรือ ผมพอเข้าใจล่ะ

  • เชื้อเชิญให้ทั้งกลุ่มแสดงความเห็น

การกระตุ้นให้ทั้งกลุ่มมีการสนองตอบ อาจเป็นแบบการให้ความเห็นเชิงสำรวจ อาทิ มีกี่คนที่เห็นด้วยกับไม่เห็นด้วยกับมุมมองดังกล่าว (อาจใช้การยกมือ) หรือไม่ก็เป็นการเชื้อเชิญให้มีคำถาม เช่น หลังจากได้ฟังเรื่องดังกล่าวอะไรคือคำถามที่เราควรจะถาม

Maker8.jpg
Maker12.jpg
  • การขอสรุป

ส่งเสริมให้การฟังอย่างตั้งใจด้วยการขอให้มีการสรุปกับสิ่งที่พูดไป ดังตัวอย่าง ขอให้คุณช่วยสรุปในประเด็นที่คุณพลพูดไป ขอให้คุณอธิบายในสิ่งที่คุณงามตาเพิ่งพูดไป ขอให้ช่วยบอกว่าการโต้เถียงจนถึงขณะนี้เป็นอย่างไร

  • ขอให้นักเรียนเสนอชื่อผู้ที่จะพูด

ให้นักเรียนได้ร่วมรับผิดชอบใบการเสนอชื่อผู้พูดรายถัดไป หรือเมื่อคุณได้พูดประเด็ดของคุณเสร็จ อาจเรียกขอให้ใครยกมือพูดความเห็นต่อประเด็นนั้น

  • ทำเป็นตัวร้าย

ท้าทายให้นักเรียนให้เหตุผลกับมุมมองที่เขาเสนอมาด้วยการเสนอมุมมองที่ขัดแยงของเราออกไปเป็นตัวกระตุ้น หรือไม่ก็อาจขอให้นักเรียนลองยกตัวอย่างมาตอบโต้ หรือ อาจเชื้อเชิญว่า ใครมีมุมมองที่ต่างออกไปหรือต้องการโต้แย้ง

  • เชื้อเชิญให้แสดงความ

เป็นการเปิดกว้างให้นักเรียนพิจารณาทางเลือกมุมมองใหม่ เช่นอาจกล่าวได้ว่า เรื่องนี้ไม่ใช่มีคำตอบเดียว ผมต้องการพิจารณาความเห็นมุมมองอื่น อาจใช้การเรียกสุ่มเอาให้แสดงความคิดเห็น และบางทีต้องพยายามหลีกเลี่ยงไม่ชี้ให้นักเรียนที่ยกมือพูดบ่อยๆ แล้ว

  • กระตุ้นให้นักเรียนถามคำถาม

เชื้อเชิญให้นักเรียนถามคำถามได้ตอบก่อน ระหว่าง หรือ หลัง การอภิปราย อาทิ ลองคิดถึงคำถามที่ควรถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ มีใครถามคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้างหรือไม่คุณคิดว่ายังมีคำถามอะไรที่ยังคงต้องการคำตอบ

นอกจากนี้ วศิณีส์ (2560) ได้กล่าวถึงกลยุทธ์สำคัญที่เสนอแนะในเรื่องการตถามเพื่อพัฒนาการคิดคือ หลัก 3 P คือการหยุดชั่วขณะ (Pause) การพิสูจน์ (Prove) และการยกย่อง (Praise) การหยุดชั่วขณะก็เพื่อที่จะได้มีการคิด พิสูจน์คือการพิสูจน์คำถามนั้น และยกย่องให้กับการพยายามอย่างจริงจังของการมีส่วนต่อการอภิปรายผ่านทางการ พูด การฟัง และการคิด

เอกสารอ้างอิง

บรรจง อมรชีวิน. (2556). เปลี่ยนห้องเรียนให้เป็นห้องคิด(Thinking Classroom). กรุงเทพฯ: หจก.ภาพพิมพ์.

วศิณีส์ อิศรเสนา ณ อยุธยา. (2560). เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ STEM Education(สะเต็มศึกษา). กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย