Difference between revisions of "Facilitator ผู้อำนวยการเรียนรู้"

From Knowledge sharing space
Jump to: navigation, search
(Created page with "== บทบาทครูกับการช่วยอำนวยการ Facilitator == ครูควรพูดแต่น้อยเพื่อให้น...")
 
(บทบาทครูกับการช่วยอำนวยการ Facilitator)
Line 1: Line 1:
== บทบาทครูกับการช่วยอำนวยการ Facilitator ==
+
== บทบาทครูกับผู้อำนวยการเรียนรู้ (Facilitator) ==
  
 
ครูควรพูดแต่น้อยเพื่อให้นักเรียนได้คิดมากขึ้น อย่าพยายามบรรยายในห้องมากจนเกินไปไม่ควรเกิน 20 นาที ควรแบ่งออกเป็นช่วงๆ อาจเป็นช่วงละ 10นาที เพื่อปลีกเวลาให้เด็กๆได้พูดคุยหารือเกี่ยวกับเรื่องประเด็นที่ครูอาจนำเสนอ โดยอาจทำเป็นคู่ๆ หากครูเป็นผู้บรรยายเสียส่วนใหญ่ก็จะทำให้บรรยากาศของการคิดลดน้อยลงควรมอบให้เด็กทำอะไรมากขึ้น ก็จะทำให้เขาคิดมากขึ้น (บรรจง, 2556)
 
ครูควรพูดแต่น้อยเพื่อให้นักเรียนได้คิดมากขึ้น อย่าพยายามบรรยายในห้องมากจนเกินไปไม่ควรเกิน 20 นาที ควรแบ่งออกเป็นช่วงๆ อาจเป็นช่วงละ 10นาที เพื่อปลีกเวลาให้เด็กๆได้พูดคุยหารือเกี่ยวกับเรื่องประเด็นที่ครูอาจนำเสนอ โดยอาจทำเป็นคู่ๆ หากครูเป็นผู้บรรยายเสียส่วนใหญ่ก็จะทำให้บรรยากาศของการคิดลดน้อยลงควรมอบให้เด็กทำอะไรมากขึ้น ก็จะทำให้เขาคิดมากขึ้น (บรรจง, 2556)
 
  
 
== เอกสารอ้างอิง ==
 
== เอกสารอ้างอิง ==
  
 
บรรจง อมรชีวิน. (2556). เปลี่ยนห้องเรียนให้เป็นห้องคิด(Thinking Classroom). กรุงเทพฯ: หจก.ภาพพิมพ์.
 
บรรจง อมรชีวิน. (2556). เปลี่ยนห้องเรียนให้เป็นห้องคิด(Thinking Classroom). กรุงเทพฯ: หจก.ภาพพิมพ์.

Revision as of 16:07, 24 April 2018

บทบาทครูกับผู้อำนวยการเรียนรู้ (Facilitator)

ครูควรพูดแต่น้อยเพื่อให้นักเรียนได้คิดมากขึ้น อย่าพยายามบรรยายในห้องมากจนเกินไปไม่ควรเกิน 20 นาที ควรแบ่งออกเป็นช่วงๆ อาจเป็นช่วงละ 10นาที เพื่อปลีกเวลาให้เด็กๆได้พูดคุยหารือเกี่ยวกับเรื่องประเด็นที่ครูอาจนำเสนอ โดยอาจทำเป็นคู่ๆ หากครูเป็นผู้บรรยายเสียส่วนใหญ่ก็จะทำให้บรรยากาศของการคิดลดน้อยลงควรมอบให้เด็กทำอะไรมากขึ้น ก็จะทำให้เขาคิดมากขึ้น (บรรจง, 2556)

เอกสารอ้างอิง

บรรจง อมรชีวิน. (2556). เปลี่ยนห้องเรียนให้เป็นห้องคิด(Thinking Classroom). กรุงเทพฯ: หจก.ภาพพิมพ์.