Difference between revisions of "ทักษะในศตวรรษที่21"

From Knowledge sharing space
Jump to: navigation, search
(ความหมาย)
Line 14: Line 14:
  
 
คณะกรรมการจัดทำพจนานุกรมศัพท์ศึกษาศาสตร์ร่วมสมัย ราชบัณฑิตยสถานได้จัดทำคำอธิบายไว้ดังนี้ ทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ หมายถึง กลุ่มความรู้ ทักษะ และนิสัยการทำงาน ที่เชื่อว่ามีความสำคัญ ยิ่งต่อความสาเร็จในการเรียนรู้ตลอดชีวิต ทักษะดังกล่าวนี้เป็นผลจากการพัฒนากรอบความคิดการเรียนรู้ศตวรรษที่ ๒๑ (21st Century Learning Framework) โดยภาคีเพื่อทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 เบอร์นีทริลลิง และชาลส์แฟเดล (Bernie Trilling & Charles Fadel) ได้เสนอในหนังสือ 21st Century Skills : Learning for Life in Our Times (2009) เป็นสมการดังนี้  
 
คณะกรรมการจัดทำพจนานุกรมศัพท์ศึกษาศาสตร์ร่วมสมัย ราชบัณฑิตยสถานได้จัดทำคำอธิบายไว้ดังนี้ ทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ หมายถึง กลุ่มความรู้ ทักษะ และนิสัยการทำงาน ที่เชื่อว่ามีความสำคัญ ยิ่งต่อความสาเร็จในการเรียนรู้ตลอดชีวิต ทักษะดังกล่าวนี้เป็นผลจากการพัฒนากรอบความคิดการเรียนรู้ศตวรรษที่ ๒๑ (21st Century Learning Framework) โดยภาคีเพื่อทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 เบอร์นีทริลลิง และชาลส์แฟเดล (Bernie Trilling & Charles Fadel) ได้เสนอในหนังสือ 21st Century Skills : Learning for Life in Our Times (2009) เป็นสมการดังนี้  
3Rs x 7Cs = ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21  
+
:::3Rs x 7Cs = ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21  
โดย 3Rs ประกอบด้วย  ทักษะการรู้หนังสือ ได้แก่ Reading (ทักษะการอ่าน) Writing (ทักษะการเขียน)  และ Arithmetic (ทักษะเลขคณิต)  
+
:โดย 3Rs ประกอบด้วย  ทักษะการรู้หนังสือ ได้แก่ Reading (ทักษะการอ่าน) Writing (ทักษะการเขียน)  และ Arithmetic (ทักษะเลขคณิต)  
ส่วน 7Cs ประกอบด้วย ทักษะ 7 ด้าน คือ  
+
:ส่วน 7Cs ประกอบด้วย ทักษะ 7 ด้าน คือ  
(1) ด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและการแก้ปัญหา (critical thinking and problem solving)  
+
*(1) ด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและการแก้ปัญหา (critical thinking and problem solving)  
(2) ด้านการสื่อสารสารสนเทศและการรู้เท่าทันสื่อ (communications, information, media literacy) leadership)  
+
*(2) ด้านการสื่อสารสารสนเทศและการรู้เท่าทันสื่อ (communications, information, media literacy) leadership)  
(3) ด้านความร่วมมือ การทางานเป็นทีมและภาวะผู้นา (collaboration, teamwork and  
+
*(3) ด้านความร่วมมือ การทางานเป็นทีมและภาวะผู้นา (collaboration, teamwork and  
(4) ด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม (creativity and innovation)  
+
*(4) ด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม (creativity and innovation)  
(5) ด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (computing and ICT literacy  
+
*(5) ด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (computing and ICT literacy  
(6) ด้านการทางาน การเรียนรู้ และการพึ่งตนเอง (career and learning self–reliance)  
+
*(6) ด้านการทางาน การเรียนรู้ และการพึ่งตนเอง (career and learning self–reliance)  
(7) ด้านความเข้าใจต่างวัฒนธรรม ต่างกระบวนทัศน์ (cross–cultural understanding)  
+
*(7) ด้านความเข้าใจต่างวัฒนธรรม ต่างกระบวนทัศน์ (cross–cultural understanding)  
 
+
นอกจากนี้ บรรจง (2556) ได้กล่าวถึงจุดมุ่งหมายของการจัด การศึกษาเพื่อให้ผู้เรียนเรียนเกิด “ทักษะเพื่อการดำรงชีวิตในศตวรรษที่ 21” ( 21st Century Skills) โดยเสนอแนะว่า ครูต้องไม่สอนแต่ต้องออกแบบการเรียนรู้และอำนวยความสะดวก ในการเรียนรู้ให้นักเรียนได้เรียนรู้ จากการเรียนแบบลงมือทาแล้วการเรียนรู้ก็จะเกิดจากภายในใจและสมองของตนเองการเรียนรู้แบบนี้เรียกว่า PBL (Project-Based Learning)สาระวิชาก็มีความสาคัญแต่ไม่เพียงพอสาหรับการเรียนรู้เพื่อมีชีวิตในโลกยุค ศตวรรษที่ 21 ปัจจุบันการเรียนรู้สาระวิชาควรเป็นการเรียนจากการค้นคว้าเองของศิษย์โดยครูช่วยแนะนา และช่วยออกแบบกิจกรรมที่ช่วยให้นักเรียนแต่ละคนสามารถประเมินความก้าวหน้าของการเรียนรู้ของตนเอง ได้สอดคล้องกับสุปรียา(2555) ได้กล่าวว่าเมื่อมีการเรียนรู้ในศตวรรษใหม่มีคำที่สำคัญที่น่าสนใจคือคำว่า “Teach Less”และ“Learn More” โดยความหมายแล้วหมายความว่าการเปลี่ยนวิธีการศึกษาด้วยการเปลี่ยนแปลง เป้าหมายจาก“ความรู้ (knowledge)” ไปสู่“ทักษะ(skill or practices)”คำว่า“Teacher”ที่แปลว่า“ครู”นั้น ถือว่าเป็นคำเก่าไปแล้วนั้นจะถูกให้ความหมายใหม่ด้วยการเปลี่ยนมาเป็นเพียง “Facilitator ผู้อานวยการเรียนรู้ หรือ Coach ผู้ชี้แนะ” ซึ่งเป็น การเปลี่ยนแปลงจากการศึกษาหรือการเรียนรู้ที่มี ครู เป็นหลักไปเป็น นักเรียน เป็นหลักดังนั้นการเรียนรู้จึง จะต้องเรียนให้เลยจากเนื้อหาหลายส่วนก็ไม่จาเป็นต้องสอนผู้เรียนซึ่งผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้เอง แต่ต้องสร้าง ทักษะและเจตคติ กับตัวของผู้เรียนขึ้นมาให้ได้การเรียนรู้ในศตวรรษที่21จึงเป็นการเรียนรู้ร่วมกันมากกว่า การเรียนรู้แบบตัวใครตัวมัน (Individual Learning) ทักษะทั้งหมดนี้ ไม่ใช่แค่การเรียนในรั้วสถาบันการศึกษา แต่ต้องสร้างให้เป็นวัฒนธรรม “เรียนรู้ตลอดชีวิต” ที่สังคมไทยทุกภาคส่วนควรปรับตัว
+
  
 +
นอกจากนี้ บรรจง (2556) ได้กล่าวถึงจุดมุ่งหมายของการจัด การศึกษาเพื่อให้ผู้เรียนเรียนเกิด “ทักษะเพื่อการดำรงชีวิตในศตวรรษที่ 21” ( 21st Century Skills) โดยเสนอแนะว่า ครูต้องไม่สอนแต่ต้องออกแบบการเรียนรู้และอำนวยความสะดวก ในการเรียนรู้ให้นักเรียนได้เรียนรู้ จากการเรียนแบบลงมือทาแล้วการเรียนรู้ก็จะเกิดจากภายในใจและสมองของตนเองการเรียนรู้แบบนี้เรียกว่า[[PBL (Project-Based Learning)]]สาระวิชาก็มีความสาคัญแต่ไม่เพียงพอสาหรับการเรียนรู้เพื่อมีชีวิตในโลกยุค ศตวรรษที่ 21 ปัจจุบันการเรียนรู้สาระวิชาควรเป็นการเรียนจากการค้นคว้าเองของศิษย์โดยครูช่วยแนะนา และช่วยออกแบบกิจกรรมที่ช่วยให้นักเรียนแต่ละคนสามารถประเมินความก้าวหน้าของการเรียนรู้ของตนเอง ได้สอดคล้องกับสุปรียา(2555) ได้กล่าวว่าเมื่อมีการเรียนรู้ในศตวรรษใหม่มีคำที่สำคัญที่น่าสนใจคือคำว่า “Teach Less”และ“Learn More” โดยความหมายแล้วหมายความว่าการเปลี่ยนวิธีการศึกษาด้วยการเปลี่ยนแปลง เป้าหมายจาก“ความรู้ (knowledge)” ไปสู่“ทักษะ(skill or practices)”คำว่า“Teacher”ที่แปลว่า“ครู”นั้น ถือว่าเป็นคำเก่าไปแล้วนั้นจะถูกให้ความหมายใหม่ด้วยการเปลี่ยนมาเป็นเพียง [[Facilitator ผู้อำนวยการเรียนรู้]] หรือ Coach ผู้ชี้แนะ ซึ่งเป็น การเปลี่ยนแปลงจากการศึกษาหรือการเรียนรู้ที่มี ครู เป็นหลักไปเป็น นักเรียน เป็นหลักดังนั้นการเรียนรู้จึง จะต้องเรียนให้เลยจากเนื้อหาหลายส่วนก็ไม่จาเป็นต้องสอนผู้เรียนซึ่งผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้เอง แต่ต้องสร้าง ทักษะและเจตคติ กับตัวของผู้เรียนขึ้นมาให้ได้การเรียนรู้ในศตวรรษที่21จึงเป็นการเรียนรู้ร่วมกันมากกว่า การเรียนรู้แบบตัวใครตัวมัน (Individual Learning) ทักษะทั้งหมดนี้ ไม่ใช่แค่การเรียนในรั้วสถาบันการศึกษา แต่ต้องสร้างให้เป็นวัฒนธรรม “เรียนรู้ตลอดชีวิต” ที่สังคมไทยทุกภาคส่วนควรปรับตัว
  
 
== ดาวน์โหลดเอกสารที่เกี่ยวเพิ่มเติมได้ที่ ==
 
== ดาวน์โหลดเอกสารที่เกี่ยวเพิ่มเติมได้ที่ ==

Revision as of 14:22, 23 April 2018

ศตวรรษที่ 21 สถานการณ์โลกมีความแตกต่างจากศตวรรษที่ 20 และ 19 ระบบการศึกษา ต้องมีการพัฒนาเพื่อให้สอดคล้องกับภาวะความเป็นจริง (www.moe.go.th, 2557)


กรอบแนวคิดทักษะในศตวรรษที่ 21

โดยภาวะความเป็นจริงในยุคการทำงานนั้น มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสูง โจทย์สำคัญของการศึกษาปัจจุบัน จึงอยู่ที่ว่า “จะสร้างการเรียนรู้อย่างไรให้สอดรับกับทักษะที่ตลาดโลกต้องการ” ซึ่ง ทักษะแรงงานที่ตลาดโลกต้องการ ทางกระทรวงศึกษาธิการ ได้ระบุว่าในประเทศสหรัฐอเมริกาแนวคิดเรื่อง "ทักษะแห่งอนาคตใหม่: การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21" ได้ถูกพัฒนาขึ้น โดยภาคส่วนที่เกิดจากวงการนอกการศึกษา ประกอบด้วย บริษัทเอกชนชั้นนำขนาดใหญ่ เช่น บริษัทแอปเปิ้ล บริษัทไมโครซอฟ บริษัทวอล์ดิสนีย์ องค์กรวิชาชีพระดับประเทศ และสำนักงานด้านการศึกษาของรัฐ รวมตัวและก่อตั้งเป็นเครือข่ายองค์กรความร่วมมือเพื่อทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 (Partnership for 21st Century Skills) หรือเรียกย่อๆว่า เครือข่าย P21         หน่วยงานเหล่านี้ได้เสนอกรอบแนวคิดทักษะในศตวรรษที่21 ของผุ้เรียนในศตวรรษที่ 21 ที่ควรมีในการดำรงชีวิต ได้แก่ (Partnerships for 21 Century Skills, 2009) สาระวิชาหลัก ทักษะด้านการเรียนรู้และใช้นวัตกรรมใหม่ ทักษะด้านสารสนเทศและเทคโนโลยี ทักษะในการดำรงชีวิตและอาชีพ

ความหมาย

คณะกรรมการจัดทำพจนานุกรมศัพท์ศึกษาศาสตร์ร่วมสมัย ราชบัณฑิตยสถานได้จัดทำคำอธิบายไว้ดังนี้ ทักษะแห่งศตวรรษที่ ๒๑ หมายถึง กลุ่มความรู้ ทักษะ และนิสัยการทำงาน ที่เชื่อว่ามีความสำคัญ ยิ่งต่อความสาเร็จในการเรียนรู้ตลอดชีวิต ทักษะดังกล่าวนี้เป็นผลจากการพัฒนากรอบความคิดการเรียนรู้ศตวรรษที่ ๒๑ (21st Century Learning Framework) โดยภาคีเพื่อทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 เบอร์นีทริลลิง และชาลส์แฟเดล (Bernie Trilling & Charles Fadel) ได้เสนอในหนังสือ 21st Century Skills : Learning for Life in Our Times (2009) เป็นสมการดังนี้

3Rs x 7Cs = ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21
โดย 3Rs ประกอบด้วย ทักษะการรู้หนังสือ ได้แก่ Reading (ทักษะการอ่าน) Writing (ทักษะการเขียน) และ Arithmetic (ทักษะเลขคณิต)
ส่วน 7Cs ประกอบด้วย ทักษะ 7 ด้าน คือ
  • (1) ด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและการแก้ปัญหา (critical thinking and problem solving)
  • (2) ด้านการสื่อสารสารสนเทศและการรู้เท่าทันสื่อ (communications, information, media literacy) leadership)
  • (3) ด้านความร่วมมือ การทางานเป็นทีมและภาวะผู้นา (collaboration, teamwork and
  • (4) ด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม (creativity and innovation)
  • (5) ด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (computing and ICT literacy
  • (6) ด้านการทางาน การเรียนรู้ และการพึ่งตนเอง (career and learning self–reliance)
  • (7) ด้านความเข้าใจต่างวัฒนธรรม ต่างกระบวนทัศน์ (cross–cultural understanding)

นอกจากนี้ บรรจง (2556) ได้กล่าวถึงจุดมุ่งหมายของการจัด การศึกษาเพื่อให้ผู้เรียนเรียนเกิด “ทักษะเพื่อการดำรงชีวิตในศตวรรษที่ 21” ( 21st Century Skills) โดยเสนอแนะว่า ครูต้องไม่สอนแต่ต้องออกแบบการเรียนรู้และอำนวยความสะดวก ในการเรียนรู้ให้นักเรียนได้เรียนรู้ จากการเรียนแบบลงมือทาแล้วการเรียนรู้ก็จะเกิดจากภายในใจและสมองของตนเองการเรียนรู้แบบนี้เรียกว่าPBL (Project-Based Learning)สาระวิชาก็มีความสาคัญแต่ไม่เพียงพอสาหรับการเรียนรู้เพื่อมีชีวิตในโลกยุค ศตวรรษที่ 21 ปัจจุบันการเรียนรู้สาระวิชาควรเป็นการเรียนจากการค้นคว้าเองของศิษย์โดยครูช่วยแนะนา และช่วยออกแบบกิจกรรมที่ช่วยให้นักเรียนแต่ละคนสามารถประเมินความก้าวหน้าของการเรียนรู้ของตนเอง ได้สอดคล้องกับสุปรียา(2555) ได้กล่าวว่าเมื่อมีการเรียนรู้ในศตวรรษใหม่มีคำที่สำคัญที่น่าสนใจคือคำว่า “Teach Less”และ“Learn More” โดยความหมายแล้วหมายความว่าการเปลี่ยนวิธีการศึกษาด้วยการเปลี่ยนแปลง เป้าหมายจาก“ความรู้ (knowledge)” ไปสู่“ทักษะ(skill or practices)”คำว่า“Teacher”ที่แปลว่า“ครู”นั้น ถือว่าเป็นคำเก่าไปแล้วนั้นจะถูกให้ความหมายใหม่ด้วยการเปลี่ยนมาเป็นเพียง Facilitator ผู้อำนวยการเรียนรู้ หรือ Coach ผู้ชี้แนะ ซึ่งเป็น การเปลี่ยนแปลงจากการศึกษาหรือการเรียนรู้ที่มี ครู เป็นหลักไปเป็น นักเรียน เป็นหลักดังนั้นการเรียนรู้จึง จะต้องเรียนให้เลยจากเนื้อหาหลายส่วนก็ไม่จาเป็นต้องสอนผู้เรียนซึ่งผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้เอง แต่ต้องสร้าง ทักษะและเจตคติ กับตัวของผู้เรียนขึ้นมาให้ได้การเรียนรู้ในศตวรรษที่21จึงเป็นการเรียนรู้ร่วมกันมากกว่า การเรียนรู้แบบตัวใครตัวมัน (Individual Learning) ทักษะทั้งหมดนี้ ไม่ใช่แค่การเรียนในรั้วสถาบันการศึกษา แต่ต้องสร้างให้เป็นวัฒนธรรม “เรียนรู้ตลอดชีวิต” ที่สังคมไทยทุกภาคส่วนควรปรับตัว

ดาวน์โหลดเอกสารที่เกี่ยวเพิ่มเติมได้ที่

[1] [2] [3]


แหล่งที่มา

กระทรวงศึกษาธิการ. การเรียนรู้ในศตวรรษที่21. สืบค้นจากhttp://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.php?NewsID=38880&Key=news_research
สุปรียา ศิริพัฒนกุลขจร. (2555). การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 (The 21st Century Learning).

The NAS Magazine มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าธนบุรี. 2, (18-20).