Difference between revisions of "ความแตกต่างระหว่างการวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ และการวิจัยเชิงวิชาการ"

From Knowledge sharing space
Jump to: navigation, search
Line 1: Line 1:
  
การวิจัย คือ กระบวนการในการแสวงหาความรู้ที่เชื่อถือได้ ด้วยวิธีการที่เชื่อถือได้ โดยอาศัยระเบียบวิธีการทางวิทยาศาสตร์ การวิจัยมีหลายรูปแบบแตกต่างกันไปตามคำถามวิจัย วัตถุประสงค์และผลลัพธ์ที่ต้องการ  
+
การวิจัย คือ กระบวนการในการแสวงหาความรู้ที่เชื่อถือได้ ด้วยวิธีการที่เชื่อถือได้ โดยอาศัยระเบียบวิธีการทางวิทยาศาสตร์ การวิจัยมีหลายรูปแบบแตกต่างกันไปตามคำถามวิจัย วัตถุประสงค์และผลลัพธ์ที่ต้องการ ในหัวข้อนี้ผู้เขียนพูดถึงการวิจัย 2 รูปแบบ คือการวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ และการวิจัยเชิงวิชาการ ว่ามีประเด็นที่มีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง รายละเอียดแบ่งสรุปออกเป็นหัวข้อดังนี้
 
+
ประเด็นที่มีความแตกต่างกันระหว่างการวิจัยใน 2รูปแบบสามารถแบ่งออกได้ดังนี้
+
 
   
 
   
 
1.จุดเริ่มต้นของการวิจัย
 
1.จุดเริ่มต้นของการวิจัย

Revision as of 21:01, 18 October 2018

การวิจัย คือ กระบวนการในการแสวงหาความรู้ที่เชื่อถือได้ ด้วยวิธีการที่เชื่อถือได้ โดยอาศัยระเบียบวิธีการทางวิทยาศาสตร์ การวิจัยมีหลายรูปแบบแตกต่างกันไปตามคำถามวิจัย วัตถุประสงค์และผลลัพธ์ที่ต้องการ ในหัวข้อนี้ผู้เขียนพูดถึงการวิจัย 2 รูปแบบ คือการวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ และการวิจัยเชิงวิชาการ ว่ามีประเด็นที่มีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง รายละเอียดแบ่งสรุปออกเป็นหัวข้อดังนี้

1.จุดเริ่มต้นของการวิจัย การวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ : เริ่มต้นจากสภาพปัญหาการเรียนรู้ของผู้เรียนหรือปัญหาการจัดการเรียนการสอนของครู และครูมีความคิดความปรารถนาดีที่จะแก้ปัญหาการเรียนรู้หรือปรับปรุงพัฒนาการจัดการเรียนการสอนของตนเอง

การวิจัยเชิงพัฒนาการ : จุดเริ่มต้นของการวิจัยอาจมาจากนโยบายความต้องการของหน่วยงาน ความสนใจของนักวิจัยที่ต้องการศึกษา ค้นหาคำตอบในประเด็นที่ต้องนำไปใช้ประโยชน์ต่อการพัฒนา

2. ปัญหาการวิจัย

การวิจัยเพื่อการเรียนรู้ : ปัญหาเกี่ยวกับการเรียนรู้ของผู้เรียนและปัญหาการเรียนการสอนในชั้นเรียน เป็นประเด็นปัญหาที่เล็กแต่มีความสำคัญและมีความหมายต่อการเรียนรู้ของผู้เรียน การเรียนการสอนตามหลักสูตรและมาตรฐานการเรียนรู้

การวิจัยเชิงวิชาการ : เป็นปัญหาในวงกว้างทางการศึกษาที่อาจเป็นปัญหาเชิงนโยบายการศึกษาหลักสูตร การบริหารการศึกษา ฯลฯ

3. วัตถุประสงค์/เป้าหมายของการวิจัย

การวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ : เพื่อแก้ปัญหา/พัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนและปรับปรุง/พัฒนาการจัดการเรียนการสอนของครู

การวิจัยเชิงวิชาการ : เพื่อสร้างองค์ความรู้ ข้อความรู้ทั่วไปซึ่งสามารถสรุปอ้างอิงในประชากรระดับกว้างได้

4. ผู้วิจัย

การวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ : ดำเนินการโดยครูผู้สอนที่รับผิดชอบในแต่ละรายวิชา การวิจัยเชิงวิชาการ :ดำเนินการโดยนักวิชาการหรือนักการศึกษาที่ไม่ได้ปฏิบัติงานการสอน

5. ประชากรหรือกลุ่มเป้าหมาย

การวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ : มุ่งศึกษาผู้เรียนที่เรียนในแต่ละรายวิชาที่มีปัญหาการเรียนรู้ ปัญหาการจัดการเรียนการสอนซึ่งอาจ เป็นรายบุคคล รายกลุ่ม รายห้องเรียน หรือทั้งระดับชั้นเรียนที่ครูนักวิจัยมีส่วนรับผิดชอบในการจัดการเรียนการสอน

การวิจัยเชิงวิชาการ : กลุ่มนักเรียน หรือกลุ่มครูบุคลากรทางการศึกษา หรือกลุ่มเป้าหมายอื่นที่เป็นตัวแทนประชากรที่ผู้วิจัยเลือกมาศึกษา

6. ช่วงเวลาในการทำวิจัย

การวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ : โดยครูนักวิจัยทำวิจัยควบคู่กับกับการเรียนการสอนหรือให้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนการสอน เพื่อให้ทันต่อการแก้ไขปัญหาหรือพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนที่เกิดขึ้นในชั้นเรียนส่วนใหญ่ใช้เวลาในการทำวิจัยไม่มากนัก

การวิจัยเชิงวิชาการ : โดยนักวิจัยภายนอกทำวิจัยเมื่อมีปัญหาทางการศึกษาหรือมีความต้องการที่จะศึกษาหาคำตอบใน ประเด็นที่สนใจ ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการเรียนการสอนหรือประเด็นปัญหาอื่น อาจใช้เวลาในการทำวิจัยนานกว่าการวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้

7. กระบวนการวิจัย

การวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ : ใช้กระบวนการวิจัยปฏิบัติการวงจร PAOR ที่เป็นวงจรเดียวกับการปฏิบัติงานตามปกติโดย เริ่มจากวงจรเล็กๆ ของการวางแผน (Plan) การปฏิบัติ (Act) การสังเกต(Observe) และการสะท้อนผล(Reflect) ที่นำไปสู่การพัฒนาการเรียนการสอนเป็นวงจรอย่างต่อเนื่อง

การวิจัยเชิงวิชาการ : ใช้กระบวนการวิจัยโดยกำหนดปัญหาศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้อง ออกแบบการวิจัย (โดยกำหนด ประชากร กลุ่มตัวอย่าง สร้างเครื่องมือ เก็บข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล) และนำเสนอผลการวิจัย

8. วิธีดำเนินการวิจัย

การวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ : ไม่เน้นการกำหนดกรอบแนวคิดทฤษฎีไม่เน้นแบบแผนการวิจัยและการออกแบบการวิจัยที่เคร่งครัด

การวิจัยเชิงวิชาการ. : มีการกำหนดกรอบแนวคิดทฤษฎี และพัฒนาทฤษฎี ยึดแบบแผนการวิจัยและการออกแบบการวิจัยที่รัดกุม

9. การกำหนดวิธีการแก้ปัญหาหรือพัฒนาการเรียนการสอน

การวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ : โดยอาศัยประสบการณ์ของครูนักวิจัยการเรียนรู้จากกรณีตัวอย่าง ของเพื่อนครู หรือการศึกษาค้นหาวิธีการ / นวัตกรรมจากแหล่งความรู้ต่างๆแล้วนำมาทดลองใช้และตรวจสอบผล การวิจัยเชิงวิชาการ ศึกษาทฤษฎีหรือผลการวิจัยที่เกี่ยวข้อง

10. การเก็บรวบรวมข้อมูล

การวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ : ครูเป็นผู้เก็บข้อมูล โดยใช้วิธีการสังเกตหลักฐานการแสดงพฤติกรรมของผู้เรียน การทดสอบ ประเมินความรู้ ทักษะผู้เรียน

การวิจัยเชิงวิชาการ : ผู้วิจัยเป็นผู้เก็บข้อมูลโดยอาจใช้วิธีการที่หลากหลาย ทั้งแบบสอบถาม แบบทดสอบ การสัมภาษณ์ การสนทนากลุ่ม

11. การวิเคราะห์ข้อมูล

การวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ : ใช้การวิเคราะห์เนื้อหาและการวิเคราะห์ด้วยสิติขั้นพื้นฐาน ไม่เน้นการวิเคราะห์ด้วยสถิติสูง

การวิจัยเชิงวิชาการ : ส่วนใหญ่ใช้วิธีการวิเคราะห์ทางสถิติทั้งสถิติขั้นพื้นฐานและสถิติขั้นสูงเน้นการสรุปอ้างอิง

12. การเขียนรายงานการวิจัย

การวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ : ครูนำเสนอผลการวิจัยให้เป็นหลักฐานการปฏิบัติงานในวิชาชีพครู โดยไม่เน้นรูปแบบรายงาน แต่มุ่งนำผลการวิจัยไปใช้เพื่อปรับปรุงพัฒนาการเรียนการสอน

การวิจัยเชิงวิชาการ : มีรูปแบบการเขียนรายงานการวิจัยที่เป็นทางการให้มีคุณภาพมาตรฐานทางวิชาการ

13. การนำผลการวิจัยไปใช้

การวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ : นำผลไปใช้แก้ปัญหา พัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียน และปรับปรุง พัฒนา การเรียนการสอนของครูในแต่ละรายวิชา ไม่มุ่งนำผลไปใช้ในวงกว้างหรือไม่เน้นการสรุปอ้างอิง และตีพิมพ์เผยแพร่เป็นบทความวิชาการ

การวิจัยเชิงวิชาการ : ผลการวิจัยอาจไม่ได้นำไปใช้ในทางปฏิบัติจริง แต่อาจมีการตีพิมพ์เผยแพร่เป็นบทความวิจัยหรือบทความทางวิชาการเพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อวงการวิชาการและวงการวิชาชีพ


เรียงเรียงเนื้อหาโดย ดร.เบ็ญจวรรณ ลี้เจริญ